PAILIN ไพลิน..อ่านง่าย..ใกล้คุณ | pailinbooknet.com

ข้อมูลบริษัท


ประวัติความเป็นมา

   บริษัท ไพลินบุ๊คเน็ต จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทผู้ผลิตหนังสือประเภทหนังสือพ๊อกเก็ตบุ๊คเกี่ยวกับเรื่องราวทั่วไป เช่น  โหราศาสตร์ ศาสนา สุขภาพ ภาษา จิตวิทยา แม่และเด็ก อาหาร วรรณกรรม เรื่องสั้น ฯลฯ รวมถึงวรรณกรรม และนวนิยาย จากนักเขียนหลายท่านที่รวบรวมเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ให้แก่นักอ่านทั่วไป  โดยลูกค้าส่วนใหญ่จัดอยู่ในกลุ่มตลาดระดับกลางจนถึงระดับล่าง เนื่องจากราคาของหนังสือไม่สูงมากนักจึงสามารถเข้าถึงผู้อ่านเป็นจำนวนมาก บริษัท ไพลินบุ๊คเน็ต จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนก่อตั้งเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2540 ในนาม บริษัท ไพลินสีน้ำเงิน จำกัด โดยกลุ่มตระกูลเฉลิมชัยวัฒน์ ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 1 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์หลักในตอนแรกเป็นสำนักพิมพ์ผลิตหนังสือพ๊อกเก็ตบุ๊คผ่านการจัดจำหน่ายของผู้จัดจำหน่ายอื่นเป็นส่วนใหญ่ จากนั้นในปี พ.ศ. 2543 บริษัทฯ ได้เปลี่ยนชื่อบริษัทจาก บริษัท ไพลินสีน้ำเงิน จำกัด เป็นบริษัท ไพลินบุ๊คเน็ต จำกัด เพื่อสะท้อนการเข้าสู่อุตสาหกรรมการผลิตและจัดจำหน่ายหนังสืออย่างเต็มรูปแบบ โดยจำหน่ายผ่านเจ้าหน้าที่การตลาดที่บริษัทฯ ส่งไปประจำจุดจำหน่ายทางเลือก เช่นในห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน และแหล่งที่มีคนสัญจรหนาแน่น

   เดิมในอุตสาหกรรมการผลิตหนังสือ การประกอบธุรกิจให้ครบวงจรของห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) จะต้องมีองค์ประกอบ ตั้งแต่สำนักพิมพ์ ผู้จัดจำหน่าย และร้านหนังสือ ซึ่งเป็นการลงทุนที่สูงมาก โดยเฉพาะในส่วนร้านหนังสือ โดยแต่ละขั้นตอนของ Supply Chain มีค่าการตลาดของส่วนงานตนเอง  ทำให้หนังสือเมื่อไปถึงผู้บริโภคมีราคาสูงเพิ่มขึ้นตามลำดับชั้น  ของการจัดจำหน่าย คนที่มีรายได้น้อยที่เป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศจึงไม่สามารถที่จะซื้อหาครอบครองหนังสือได้ และปัจจุบันนี้ในวงการหนังสือก็จะมีรายใหญ่ที่ทำอุตสาหกรรมหนังสือแบบครบวงจรจนเกือบจะผูกขาดในตลาด ทำให้การแข่งขันในอุตสาหกรรมหนังสือแทบจะเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากผู้ที่เข้ามาในอุตสาหกรรมหนังสือรายใหม่ ส่วนใหญ่มักจะเป็นสำนักพิมพ์ซึ่งไม่สามารถมีร้านหนังสือเป็นของตัวเองไม่ได้จัดจำหน่ายเอง จำเป็นต้องฝากให้ผู้จัดจำหน่ายเป็นผู้ดำเนินการเอาไปฝากขายตามร้านหนังสือ

   ด้วยวิสัยทัศน์ของทางผู้บริหารของบริษัทฯ ได้มองเรื่องนี้อย่างชาญฉลาดและได้ค้นพบว่า หากเปลี่ยนรูปแบบโมเดลของอุตสาหกรรมหนังสือจากที่เคยเป็นมา จะทำให้หนังสือราคาถูกลงได้สำหรับหนังสือในคุณภาพทัดเทียมกัน และสามารถเข้าหากลุ่มลูกค้ากลุ่มใหม่ที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นคนชั้นกลางและคนชั้นล่างที่มีรายได้น้อย  ซึ่งยังขาดโอกาสในการซื้อหาหนังสือ เนื่องจากข้อจำกัดทางด้านราคา สถานที่ ฯลฯ ผู้บริหาร ของบริษัทฯ บูรณาการโมเดลการผลิตหนังสือเสียใหม่ ปรับ Supply Chain ของสำนักพิมพ์ ตัวแทนจำหน่าย และจุดจำหน่ายหนังสือแบบทางเลือก

   จุดจำหน่ายแบบทางเลือกนี้  เป็นจุดพลิกผันของอุตสาหกรรมหนังสือที่ลงทุนต่ำยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนได้ตามกลยุทธ์การขาย และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าของบริษัทฯแบบใกล้ชิดถึงตัว ทางบริษัทฯเล็งเห็นว่า ร้านสะดวกซื้อ โมเดิร์นเทรดที่ขายสินค้าราคาประหยัดมีเครือข่ายเป็นจำนวนมาก เจาะครอบคลุมถึงพื้นที่ทั่วประเทศ แม้ในภูมิภาคที่ห่างไกล และลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นคนชั้นกลางและคนชั้นล่างนิยมเข้าไปจับจ่ายใช้สอย ซึ่งตรงกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัทฯ ทางบริษัทฯ จึงได้ใช้ช่องทางนี้เป็นจุดจำหน่ายสินค้าแบบทางเลือกของบริษัท และประสบผลสำเร็จอย่างงดงามในช่วงที่ผ่านมา

   ในปี   2550  เพื่อรองรับการขยายงานในทุกด้าน  บริษัทฯจึงได้ลงทุนก่อสร้างอาคารและพัฒนาเป็นสำนักงานและคลังเก็บสินค้าแห่งใหม่ บนพื้นที่กว่า 13 ไร่ ที่เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร มีหนังสือที่ผลิตและพร้อมจำหน่ายอยู่มากกว่า 13,000 ปก หรือคิดเป็นจำนวนมากถึง 18 ล้านเล่ม ปัจจุบันวางขายตามจุดจำหน่ายหนังสือต่างๆ มากที่สุดในประเทศกว่า 6,500 แห่ง

สรุปการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการที่สำคัญ

วันเดือนปี
เหตุการณ์ที่สำคัญ

มิ.ย. 2540

จดทะเบียนก่อตั้งบริษัทฯ เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2540 ในนาม “บริษัท ไพลินสีน้ำเงิน จำกัด” โดยกลุ่มตระกูลเฉลิมชัยวัฒน์ ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 1 ล้านบาท มีสำนักงานแห่งแรกอยู่ที่ ซอยลาดพร้าว 91 ถนนลาดพร้าว แขวงวังทองหลาง เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร

ก.พ. 2543

เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “บริษัท ไพลินบุ๊คเน็ต จำกัด” เพื่อรองรับการจัดตั้งสำนักพิมพ์และเป็นผู้จัดจำหน่ายหนังสือพ๊อกเก็ตบุ๊ค

ก.ค. 2545

เริ่มจัดจำหน่ายผ่านร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น ในลักษณะฝากขาย
เพิ่มทุนจดทะเบียนและเรียกชำระแล้วเป็น 10 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนการขยายธุรกิจ

ต.ค. 2546

เพิ่มทุนจดทะเบียนและเรียกชำระแล้วเป็น 20 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนรองรับการเพิ่มจำนวนหนังสือที่ผลิตและจัดจำหน่าย

ก.ค. 2547

เพิ่มทุนจดทะเบียนและเรียกชำระแล้วเป็น 40 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนใช้ในกิจการ

ธ.ค. 2549

เพิ่มทุนจดทะเบียนและเรียกชำระแล้วเป็น 100 ล้านบาท เพื่อลงทุนในที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง อาคารสำนักงานและอาคารเก็บสินค้า ที่ถนนเสรีไทย อำเภอมีนบุรี กรุงเทพมหานคร ก่อสร้างเป็นสำนักงานใหญ่ และศูนย์กระจายสินค้า

ธ.ค. 2551

เพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัทฯ โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 500,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100
บาท รวมเป็นทุนจดทะเบียนชำระแล้วเป็น 150 ล้านบาท โดยบริษัทฯ ได้เสนอขายหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมเพื่อใช้เป็นเงินลงทุนในการพัฒนาอาคารคลังสินค้าแห่งที่ 2 และ 3 รองรับการจัดจำหน่ายที่เพิ่ม
ขึ้น เริ่มจัดจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรดภายในโลตัส บิ๊กซี และคาร์ฟูร์ เป็นลักษณะตั้งชั้นวางฝากขายหนังสือพ๊อกเก็ตบุ๊ค

เม.ย. 2554

แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด และเปลี่ยนชื่อเป็น “บริษัท ไพลินบุ๊คเน็ต จำกัด (มหาชน)” เปลี่ยนมูลค่าที่ตราไว้ต่อหุ้นจากหุ้นละ 100 บาท เป็น 0.50 บาท เพื่อเตรียมพร้อมในการเข้าตลาดหลักทรัพย์

ธ.ค. 2555

เพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัท และเรียกชำระแล้วเป็น 250 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนใช้ในกิจการและรองรับการขยายคลังสินค้าให้เพียงพอต่อการจัดเก็บและกระจายสินค้า

ภาพรวมในการประกอบธุรกิจของบริษัทฯ

   บริษัทฯ ประกอบธุรกิจสำนักพิมพ์โดยผลิตและจำหน่ายสื่อสิ่งพิมพ์ที่ให้ทั้งความรู้และความบันเทิง ในรูปแบบของหนังสือพ็อคเก็ตบุ๊ค บริษัทฯ ได้จัดพิมพ์และจำหน่ายหนังสือหลากหลายประเภทผ่านสำนักพิมพ์ของบริษัทฯ แบ่งแยกตามแนวงานเขียนเพื่อที่จะสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าในแต่ละกลุ่มได้อย่างเหมาะสม และเป็นสัญลักษณ์ของงานเขียนคุณภาพที่จะสื่อสารกับผู้อ่านได้ง่าย ฐานลูกค้ามีตั้งแต่กลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงกลุ่มลูกค้าระดับล่าง และระดับราคาจำหน่ายของหนังสือเริ่มต้นตั้งแต่เล่มละ 29-100 บาท ส่วนประเภทของหนังสือที่จำหน่ายในตลาดนั้นมี 11  หมวดหลัก ได้แก่

  1. หมวดศาสนา/ปรัชญา
  2. หมวดโหราศาสตร์ 
  3. หมวดสุขภาพ
  4. หมวดผู้หญิง
  5. หมวดประวัติศาสตร์/สารคดี/ทั่วไป 
  6. หมวดภาษา
  7. หมวดจิตวิทยา 
  8. หมวดวัยรุ่น 
  9. หมวดระบายสี
  10. หมวดนิยาย/นวนิยาย
  11. หมวดอาหาร

            บริษัทฯ มีจุดจำหน่ายหนังสือรวมกันทั้งสิ้นมากกว่า 6,500 แห่ง โดยแบ่งเป็น 2 ประเภทลักษณะการจัดจำหน่ายหนังสือ ได้แก่ การจำหน่ายปลีกผ่านการออกพื้นที่ตามห้างสรรพสินค้า หรือสถานที่ที่มีสัญจรของผู้คนหนาแน่นและการฝากขายตามร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ ร้านโมเดิร์นเทรด และร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมัน ฯลฯ

วิสัยทัศน์ พันธกิจและเป้าหมายการดำเนินธุรกิจ

   ปัจจัยหนึ่งที่สำคัญยิ่งและส่งผลให้คนอ่านหนังสือน้อยคือ หนังสือมีราคาแพง  อุปสรรคที่สองคือ เวลา  ผู้คนส่วนใหญ่ของประเทศมีรายได้ปานกลาง จำเป็นต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการประกอบอาชีพ  อุปสรรคที่สามคือ สถานที่ แหล่งจำหน่ายหนังสือ(ร้านหนังสือ)ไปไม่ถึงผู้คนส่วนใหญ่ของประเทศ อุปสรรคที่สี่คือ หนังสือที่สามารถหาซื้อได้ราคาถูกมีตัวเลือกน้อยและเนื้อหาก็ไม่มีคุณภาพ  ด้วยวิสัยทัศน์ของผู้บริหารเล็งเห็นว่า การเป็นผู้ผลิตหนังสือชั้นนำ จะต้องทำให้ประชาชนของประเทศไทยส่วนใหญ่จะเข้าถึงและได้อ่านหนังสือมากขึ้น  และที่สำคัญจะส่งผลต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของชาติเป็นอย่างดียิ่ง  บริษัทฯ  ยึดมั่นในพันธกิจที่จะกำจัดอุปสรรคที่ทำให้คนไทยอ่านหนังสือน้อยดังกล่าวให้ได้ และด้วยแนวคิดรูปแบบใหม่ของผู้บริหารของบริษัทฯ ทำให้เกิดโมเดลของอุตสาหกรรมหนังสือขึ้นมาใหม่  จากเดิมทีที่ห่วงโซ่อุปทานของหนังสือ (Supply Chain) คือ สำนักพิมพ์ ผู้จัดจำหน่าย และร้านหนังสือ ซึ่งแต่ละส่วนมีการลงทุนสูงและค่าการตลาดแพง โดยเฉพาะการลงทุนในส่วนร้านหนังสือมีต้นทุนสูงมากๆ 

   บริษัทฯ จึงได้ออกแบบห่วงโซ่อุปทานหนังสือใหม่ โดยการเป็นสำนักพิมพ์ ที่จัดจำหน่ายในจุดจำหน่ายทางเลือก(แทนร้านหนังสือ) ซึ่งทำให้หนังสือราคาถูกลงมาก แต่ยังมีคุณภาพและการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วยดั่งนโยบายหลักของบริษัทฯ  ที่ว่า  “ไพลินผู้ส่งความสุขในราคาถูกมีคุณภาพไปยังลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ  ทั่วพื้นที่ของประเทศไทย” วันนี้บริษัทไพลินบุ๊คเน็ต  (มหาชน) ได้ผลิตหนังสือพ๊อกเก็ตบุ๊คคุณภาพดีแต่ราคาถูกส่งไปถึงมือกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ปานกลางถึงต่ำ ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านเล่ม โดยเป้าหมายในอนาคตว่า  บริษัทจะยังยึดมั่นในอุดมการณ์และแนวคิดรวมถึงจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม ด้วยการพัฒนา และก้าวต่อไปอย่างยั่งยืนและมั่นคงด้วยข้อได้เปรียบทางการแข่งขันที่เป็นนวัตกรรมการประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมหนังสือ

   เพื่อตอบสนองการอ่านการเรียนรู้ของผู้คนในสังคมไทย เพิ่มพูนปัญญาและความสามารถ สร้างเสริมประสบการณ์ให้รู้เท่าทันและทันสมัย ติดตามข่าวสาร เรื่องราวต่างๆ หนังสือที่ผลิตภายใต้กลุ่มสำนักพิมพ์ในเครือของบริษัทฯ ครอบคลุมทุกแนวหนังสือ อาทิ ความงาม, แนวตำราอาหาร, แนวเกษตร, แนวภาษาต่างประเทศ อังกฤษ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น, แนวประวัติศาสตร์ ราชสำนัก, วรรณกรรม, เรื่องสั้น, สารคดี, นวนิยาย, ภูมิปัญญาไทย, กระทั่งอัตชีวประวัติผู้นำที่เป็นต้นแบบทางความคิดของผู้คนในสังคม และแนวอื่นๆ อีกหลากหลายที่ตอบสนองการเรียนรู้ทุกย่างก้าวในชีวิต

   บริษัทฯ ถือว่าการอ่านเป็นจุดเริ่มต้นแห่งการเรียนรู้ มุ่งมั่น สร้างสรรค์ พัฒนาทรัพยากรบุคคล บริษัทฯ จะเสาะหานักคิด นักเขียน นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์แต่ละแขนง และพยายามเพื่อสร้างสรรค์เป็นหนังสือดี มีคุณค่า จับจ้องที่จุดหมาย ยึดมั่นแนวคิดและจิตสำนึกรับผิดชอบ เห็นสังคมไทยเป็นครอบครัวเดียวกัน ก้าวไปด้วยกัน เดินไปได้ไกล เปิดโลกความคิดสร้างสรรค์เพื่อจุดประกายก้าวที่กล้า กล้าที่จะก้าวของผู้อ่าน

   เป้าหมายหลักการดำเนินการธุรกิจในอีก 3 - 5 ปีข้างหน้าก็คือ บริษัทฯ จะเติบโตอย่างมั่นคง โดยอาศัยความได้เปรียบทางด้านระบบการจัดจำหน่ายหนังสือที่มีอยู่กว่า 6,500 แห่ง ที่เหนือกว่าคู่แข่งรายอื่นในอุตสาหกรรมค่อนข้างมากสร้างผลตอบแทนอย่างยั่งยืนให้แก่ผู้ถือหุ้น รวมทั้ง พนักงานของบริษัทฯ ที่มีส่วนร่วมในความสำเร็จจนถึงทุกวันนี้ 

จุดเด่นในการประกอบธุรกิจ

1. ฐานลูกค้าที่มีขนาดใหญ่ 

   บริษัทฯ มีกลุ่มลูกค้าวงกว้างเนื่องจากเนื้อหาสาระของหนังสือที่หลากหลายด้านอยู่ในความสนใจของผู้อ่านทุกกลุ่ม ทุกอาชีพ  และด้วยระดับราคาจำหน่ายของหนังสือบริษัทฯ  เริ่มตั้งแต่  29-100  บาท จึงทำให้ไม่เป็นอุปสรรคต่อการแสวงหาความรู้ของผู้อ่าน  ทำให้กลุ่มลูกค้าของบริษัทฯ ค่อนข้างกว้างตั้งแต่กลุ่มลูกค้าระดับกลางจนถึงระดับล่าง ซึ่งถือเป็นกลุ่มคนส่วนใหญ่ของประเทศที่แสวงหาความรู้นอกตำราเรียน  เป็นความรู้ทั่วไปที่เกี่ยวกับการใช้ชีวิตวัน และศึกษาประสบการณ์ในเรื่องต่างๆ  ซึ่งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายนี้ บริษัทฯมีความเข้าใจในความต้องการอย่างดี  และใช้เป็นพื้นฐานในการกำหนดกลยุทธ์การแข่งขันที่สำคัญของบริษัทฯ  ให้เข้ากับพฤติกรรมการอ่านหนังสือของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย  ตัวอย่างเช่น การวิเคราะห์จัดหาพื้นที่การจัดจำหน่าย   และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย  เป็นต้น  ยิ่งไปกว่านั้น  การที่บริษัทฯจำหน่ายหนังสือในราคาย่อมเยาเป็นการเปิดโอกาสให้กลุ่มลูกค้าระดับล่างสามารถเข้าถึงการอ่านหนังสือได้ง่ายขึ้น เนื่องจากหนังสือส่วนใหญ่ปัจจุบันในท้องตลาดนั้นมีราคาสูง 

2. พื้นที่การจัดจำหน่ายที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ

   จุดจำหน่ายหนังสือของบริษัทฯ  มีประมาณ  6,500  แห่งทั่วประเทศ ช่องทางในการจัดจำหน่ายมีหลากหลาย เช่น ร้านหนังสือทั่วไปร้านบุ๊คสไมค์  ร้านบีทูเอส   ร้านสะดวกซื้อ  เซเว่น  อีเลฟเว่น  ร้านมินิมาร์ท  ห้างโลตัส  ห้างบิ๊กซี ห้างคาร์ฟูร์ เป็นต้น  นับเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากการจัดจำหน่ายหนังสือทั่วไปของสำนักพิมพ์อื่นที่เน้นจำหน่ายในร้านหนังสือขนาดใหญ่ นอกจากพื้นที่การจัดจำหน่ายที่กระจายอยู่ บริษัทฯ ยังมีสิทธิพิเศษในการจัดนิทรรศการต่างๆ เช่น การจัดงานนิทรรศการหนังในห้างโลตัสซุปเปอร์สโตร์และร้านหนังสือบีทูเอส  เพียงรายเดียว เป็นต้น โดยหลักการพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายขนาดเล็กเป็นจำนวนมาก ทำให้บริษัทฯ มีความคล่องตัวในการจัดหาพื้นที่การจัดจำหน่ายที่โดดเด่น และบริษัทฯ สามารถเปลี่ยนแปลงจุดจำหน่ายได้อย่างสะดวกโดยไม่ต้องอาศัยเงินลงทุนและค่าใช้จ่ายจำนวนมาก อีกทั้งยังลดค่าใช้จ่ายในการว่าจ้างบุคคลากรจำหน่ายสำหรับการบริหารร้านหนังสือ โดยหันมาทุ่มเทการบริหารสินค้าคงคลังส่วนกลางที่สามารถ
กระจายหนังสืออย่างสม่ำเสมอให้แก่จุดจำหน่ายต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ 

3. การควบคุมต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

   ด้วยประสบการณ์ทางด้านการผลิตและการจัดจำหน่ายกว่าสิบปี ทำให้บริษัทฯมีความเชี่ยวชาญในการติดต่อประสานงานบริหารการผลิตและควบคุมต้นทุนการผลิตได้อย่างรัดกุมแม่นยำ  สามารถกำหนดงบประมาณการผลิตล่วงหน้าได้อย่างถูกต้อง เน้นการใช้ทรัพยากรและบุคคลากรอย่างเต็มประสิทธิภาพ  ตั้งแต่ขั้นตอนการคัดเลือกวัตถุดิบ โรงพิมพ์ในการผลิตหนังสือ การจัดทำรูปเล่ม หน้าปก รูปภาพประกอบ  รวมทั้งการจัดการเรื่องลิขสิทธิ์ บริษัทโรงพิมพ์เข้ามาติดต่อเสนอบริการเป็นจำนวนมาก ทำให้อำนาจในการต่อรองกับบริษัทคู่ค้าอยู่ในระดับสูง จึงทำให้บริษัทฯ มีต้นทุนรวมในการผลิตที่ได้เปรียบกว่าผู้ประกอบการรายอื่น   อีกทั้งช่องทางการจัดจำหน่ายที่ไม่ใช่ร้านหนังสือทั่วไป   ทำให้ต้นทุนการจัดหน่ายที่ถือเป็นส่วนสำคัญรองจากต้นทุนการผลิตมีสัดส่วนต่อราคาขายที่น้อยกว่า ด้วยองค์ประกอบเหล่านี้ จะเป็นจุดส่งเสริมศักยภาพการแข่งขันด้านราคาเหนือกว่าสำนักพิมพ์ทั่วไป ทำให้สามารถเน้นกลยุทธ์ของผู้ผลิตหนังสือต้นทุนต่ำ (Low Cost  Publisher)  ได้

4. บริษัทฯ เป็นผู้ประกอบการสำนักพิมพ์ครบวงจร

   ในการเป็นผู้ผลิตหนังสือต้นทุนต่ำ  (Low Cost Publisher)  บริษัทฯ  ได้ขยายส่วนงานหลักที่เกี่ยวกับการผลิตหนังสือพ๊อกเก็ตบุ๊คอย่างครบวงจร ตั้งแต่กองบรรณาธิการสำนักพิมพ์ ส่วนคลังสินค้า ส่วนจัดจำหน่าย  และร้านค้าหนังสือที่เป็นบู๊ธทำให้บริษัทฯ จัดการแนวทางการดำเนินธุรกิจได้ตลอดทั้งขบวนการผลิตหนังสือ ซึ่งแตกต่างจากสำนักพิมพ์อื่นๆ ที่ไม่มีส่วนงานจัดจำหน่าย และร้านค้าหนังสือ จำเป็นต้องแบ่งรายได้บางส่วนออกเป็นค่าตอบแทนในการบริการจัดจำหน่ายหนังสือ เป็นผลให้อัตรากำไรขั้นต้นน้อยกว่าผู้ประกอบการสำนักพิมพ์ครบวงจร

5. ความเข้าใจในกลุ่มผู้อ่าน

   ในการสร้างสรรค์ผลงานของนักเขียนเพื่อให้เป็นที่ตอบรับจากผู้อ่าน จำเป็นต้องรับทราบข้อมูลพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กระแสของสังคม เพื่อกำหนดเป็นเนื้อหาสาระที่ผู้อ่านสนใจ กองบรรณาธิการของบริษัทฯ จึงประกอบด้วยบุคลากรมืออาชีพที่คอยทำหน้าที่สื่อสารระหว่างผู้อ่านและนักเขียน ประสานงานในด้านต่างๆ เพื่อกลั่นกรองให้ได้ผลงานที่เป็นที่นิยมในคนหมู่มาก โดยอาศัยประสบการณ์วิเคราะห์ที่ผ่านมาและการวิจัยกลุ่มตัวอย่างเป็นประจำ  นอกจากนั้นบริษัทฯ จะให้พนักงานขายที่ไปออกพื้นที่จำหน่ายสังเกตว่าหนังสือประเภทไหนที่สามารถจำหน่ายได้เป็นจำนวนมากหรือกำลังเป็นที่สนใจของกลุ่มลูกค้า ทางบริษัทฯก็จะนำเอาประเภทหนังสือเหล่านั้นกำหนดเป็นแนวทางสำหรับนักเขียนฟังเพื่อที่จะได้นำไปเขียนได้ตรงกับความต้องการของตลาด



SHARE THIS PAGE

Back to top